33. อัลอะห์ซาบ

1.

โอ้ นบี! จงยำเกรงอัลลอฮ์ และอย่าเชื่อฟังพวกปฏิเสธศรัทธาและพวกมุนาฟิกีนแท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

2.

และจงปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกวะฮีย์ แก่เจ้า จากพระเจ้าของเจ้าแท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรู้ดียิ่งในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

3.

และจงมอบความไว้วางใจแด่อัลลอฮ์และพอเพียงแล้วที่อัลลอฮ์เป็นผู้คุ้มครอง

4.

อัลลอฮ์มิได้ทรงทำให้ชายใดมีสองหัวใจในทรวงอกของเขาและพระองค์มิได้ทรงทำให้ภริยาของพวกเจ้าซึ่งพวกเจ้าหย่าพวกเธอ (ด้วยการกล่าวซิฮารฺ)ว่าเป็นแม่ของพวกเจ้า และพระองค์มิได้ทรงทำให้การเรียก (ลูกบุญธรรม)ของพวกเจ้าว่าเป็นลูก (ที่แท้จริง) ของพวกเจ้านั่นคือการกล่าวของพวกเจ้าด้วยปากของพวกเจ้า และอัลลอฮ์นั้นตรัสสัจจะและพระองค์ทรงชี้แนะแนวทางที่ถูกต้อง

5.

จงเรียกเขาเหล่านั้นตาม (ชื่อ) พ่อของพวกเขา มันเป็นการเที่ยงธรรมกว่า ณที่อัลลอฮ์หากพวกเจ้าไม่รู้จักพ่อ (จริง ๆ) ของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาก็คือพี่น้องร่วมในศาสนาของพวกเจ้าและผู้ใกล้ชิดของพวกเจ้าและไม่เป็นที่น่าตำหนิแก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าผิดพลาดในเรื่องนั้นแต่สิ่งที่จิตใจของพวกเจ้ามีความมุ่งหมายต่างหาก และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัยผู้ทรงเมตตาเสมอ

6.

นบีนั้นเป็นผู้ใกล้ชิดกับบรรดาผู้ศรัทธายิ่งกว่าตัวของพวกเขาเองและบรรดาภริยาของเขา (นบี) คือมารดาของพวกเขาและเครือญาติร่วมสายโลหิตบางคนในหมู่พวกเขาใกล้ชิดกับอีกบางคนยิ่กว่าบรรดาผู้ศรัทธาและบรรดาผู้อพยพในบัญญติของอัลลอฮ์เว้น แต่พวกเจ้าจะกระทำความดีแก่สหายสนิทของ พวกเจ้านั่นได้มีบันทึกไว้แล้วในคัมภีร์

7.

และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้เอาคำมั่นสัญญาของพวกเขาจากบรรดานบี และจากเจ้าและจากนูห์ และอิบรอฮีม และมูซา และอิซา อิบนฺมัรยัมและเราได้เอาคำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่นจากพวกเขา

8.

เพื่อพระองค์จะทรงสอบถามบรรดาผู้สัตย์จริง เกี่ยวกับความสัตย์จริงของพวกเขาและพระองค์ทรงเตรียมการลงโทษอันเจ็บปวดไว้แก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา

9.

โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย!จงรำลึกถึงความโปรดปรานของอัลลอฮ์ที่มีต่อพวกเจ้าขณะที่กองทัพข้าศึกเข้ามารุกรานพวกเจ้าแล้วเราได้ส่งลมพายะพัดใส่พวกเขา และกำลังทหารที่พวกเจ้ามองไม่เห็นและอัลลอฮ์ทรงเห็นสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

10.

เมื่อพวกเขายกทัพมายังพวกเจ้า ทั้งจากทางข้างบนของพวกเจ้าและจากทางข้างล่างของพวกเจ้า และเมื่อนัยตาได้เหลือกลานและหัวใจได้มาจุกอยู่ที่ลำคอและพวกเจ้านึกคิดกันต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับอัลลอฮ์

11.

ณ ที่นั้นขณะนั้น บรรดาผู้ศรัทธาได้ถูกทดลองและพวกเขาถูกทำให้เคลื่อนไหวสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

12.

และจงรำลึกถึง เมื่อพวกมุนาฟิกีนและบรรดาผู้ที่หัวใจของพวกเขามีโรค กล่าวว่าอัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์มิได้สัญญาแก่เราอย่างใด นอกจากการหลอกลวงเท่านั้น

13.

และจงรำลึกถึง เมื่อกลุ่มหนึ่งจากพวกเขา (มุนาฟิกีน) กล่าวว่า โอ้ชาวยัษริบเอ๋ย!ไม่มีที่ตั้งมั่นสำหรับพวกท่านแล้ว (เพื่อต่อสู้กับข้าศึก) จงกลับไปเสียเถิดและกลุ่มหนึ่งจากพวกเขาจะขออนุญาตกับท่านนบีว่าบ้านของพวกเราไม่มีอะไรปกปิดไม่มั่นคง และมันมิได้เป็นเช่นนั้น พวกเขามิได้ประสงค์สิ่งใด นอกจากการหนี(จากการทำสงคราม)

14.

และถ้ามีการรุกรานมายังพวกเขาจากรอบนอกเมืองของมันแล้วพวกเขาได้ถูกปลุกปั่นให้ก่อความไม่สงบ แน่นอน พวกเขาจะกระทำทันทีและพวกเขาจะไม่ลังเลแม้แต่น้อย

15.

และโดยแน่นอนพวกเขาได้ให้สัญญาต่ออัลลอฮ์มาก่อนแล้วว่า พวกเขาจะไม่หันหลังกลับและสัญญาของอัลลอฮ์นั้นจะถูกสอบถาม

16.

จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า การหนีนั้นจะไม่อำนวยประโยชน์อันใดแก่พวกท่าน หากพวกท่าน(ต้องการ) จะหนีจากความตาย หรือการรบราฆ่าฟันกัน และเมื่อนั้นพวกท่านจะไม่ได้รื่นเริงกัน นอกจาก (ใน) เวลาอันเล็กน้อย

17.

จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด ใครเล่าจะปกป้องพวกท่านให้พ้นจากอัลลอฮ์ไปได้หากพระองค์ทรงปรารถนาให้ความเสียหายแก่พวกท่านหรือหากพระองค์ทรงปรารถนาให้ความเมตตาแก่พวกท่านและพวกเขาจะไม่พบใครอื่นจากอัลลอฮ์เป็นผู้คุ้มครองและเป็นผู้ช่วยเหลือแก่พวกเขา

18.

แน่นอน อัลลอฮ์ทรงรู้บรรดาผู้ขัดขวางในหมู่พวกเจ้าและผู้ที่กล่าวแก่พี่น้องของพวกเขาว่า มาหาพวกเราทางนี้และพวกเขาจะไม่มาร่วมกันต่อต้านข้าศึก นอกจากจำนวนเล็กน้อย

19.

เป็นคนตระหนี่กับพวกเจ้า ครั้นเมื่อความกลัว (อันตราย) ปรากฏขึ้นเจ้าจะเห็นพวกเขาจ้องมองไปยังเจ้าสายตาของพวกเขาเกลือกกลิ้งเสมือนผู้มีอาการร่อแร่ใกล้จะตายต่อเมื่อความกลัว (อันตราย) ได้ผ่านพ้นไปแล้วพวกเขาก็พูดจาถากถางพวกเจ้าด้วยสำนวนที่เผ็ดร้อน เป็นคนตระหนี่ในเรื่องทรัพย์สิน(ของที่ยึดมาได้จากการทำสงคราม) ชนเหล่านั้นพวกเขามิได้ศรัทธาอัลลอฮ์จึงทรงให้การงานของพวกเขาไม่บังเกิดผล และนั่นเป็นเรื่องง่ายดายแก่อัลลอฮ์

20.

พวกเขาคิดว่าพวกพรรคต่าง ๆ เหล่านั้นยังมิได้ถอยกลับออกไป และหากว่าพวกพรรคต่าง ๆเหล่านั้นหวนกลับมาอีก พวกมุนาฟิกีนก็คาดหวังกันว่าหากพวกเขาได้ไปอยู่ร่วมกับอาหรับชนบทเพื่อคอยสืบเสาะหาข่าวของพวกเจ้าและหากว่าพวกเขาได้อยู่ร่วมกับพวกเจ้าพวกเขาก็จะไม่ต่อสู้เว้นแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

21.

โดยแน่นอน ในร่อซู้ลของอัลลอฮ์มีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่หวัง(จะพบ) อัลลอฮ์และวันปรโลกและรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก

22.

และเมื่อบรรดาผู้ศรัทธาได้เห็นพรรคต่าง ๆ เหล่านั้น พวกเขา (มุอ์มิน) ได้กล่าวว่านี่คือสิ่งที่อัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์ได้สัญญาไว้แก่เราและอัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์ตรัสไว้จริงแล้ว และมันมิได้เพิ่มสิ่งใดให้แก่พวกเขานอกจากการศรัทธาและการนอบน้อม

23.

ในหมู่ผู้ศรัทธามีบุรุษผู้มีสัจจะต่อสิ่งที่พวกเขาได้สัญญาต่ออัลลอฮ์เอาไว้ดังนั้นในหมู่พวกเขามีผู้ปฏิบัติตามสัญญาของเขา และในหมู่พวกเขามีผู้ที่ยังคอย(การตายชะฮีด) และพวกเขามิได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

24.

เพื่ออัลลอฮ์จะได้ทรงตอบแทนบรรดาผู้มีสัจจะในความสัจจริงของพวกเขาและจะทรงลงโทษพวกมุนาฟิกีนหากพระองค์ทรงประสงค์หรือจะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขาแท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ

25.

และอัลลอฮ์ทรงให้พวกปฏิเสธศรัทธาถอยทัพกลับด้วยความเคียดแค้นของพวกเขาโดยที่พวกเขามิได้ประสบความดีแต่อย่างใดและอัลลอฮ์ทรงพอเพียงแล้วแก่บรรดาผู้ศรัทธาในการสู้รบ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงพลังผู้ทรงอำนาจอย่างเหลือหลาย

26.

และพระองค์ทรงให้พวกอะฮ์ลุลกิตาบ (ยิวก๊กบะนีกุร็อยเซาะฮ์) ที่ได้ช่วยเหลือพวกเขา(พวกมุชริกีน) ลงมาจากป้อมที่มั่นของพวกเขาและทรงบรรจุความหวาดกลัวไว้ในจิตใจของพวกเขา ส่วนหนึ่งพวกเจ้าประหารชีวิต (พวกเขา)และอีกส่วนหนึ่งพวกเจ้าจับเป็นเชลย

27.

และพระองค์ได้ทรงให้พวกเจ้าได้รับมรดกปกครองแผ่นดินของพวกเขาและที่อยู่อาศัยของพวกเขาและทรัพย์สินของพวกเขาและแผ่นดินที่พวกเจ้ายังมิเคยเหยียบย่างเข้าไปและอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง

28.

โอ้ นบีเอ๋ย! จงกล่าวแก่บรรดาภริยาของเจ้าเถิดว่าหากพวกเธอปรารถนาการมีชีวิตในโลกนี้และความเพริศแพร้วของมัน ก็จงมาเถิด ฉันจะจัดหา(การเลี้ยงชีพ) ให้แก่พวกเธอ และจะปล่อยพวกเธอให้ออกไปอย่างดีงาม

29.

และหากพวกเธอปรารถนาอัลลอฮ์และ ร่อซู้ลของพระองค์และโลกอาคิเราะฮ์แล้วแท้จริงอัลลอฮ์ได้เตรียมผลบุญอันใหญ่หลวงแก่เหล่าสตรีผู้กระทำความดีในหมู่พวกเธอ

30.

โอ้ บรรดาภริยาของนบีเอ๋ย! ผู้ใดในหมู่พวกเธอนำความชั่วอย่างชัดแจ้งมาการลงโทษจะถูกเพิ่มให้แก่นางเป็นสองเท่า ในการนั้นเป็นการง่ายดายแก่อัลลอฮ์

31.

และผู้ใดในหมู่พวกเธอภักดีต่ออัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์และกระทำความดีเราจะให้รางวัลของนางแก่นางสองครั้งและเราได้เตรียมปัจจัยยังชีพอันดีงามแก่นาง

32.

โอ้ บรรดาภริยาของนบีเอ๋ย! พวกเธอไม่เหมือนกับสตรีใด ๆในเหล่าสตรีอื่นหากพวกเธอยำเกรง (อัลลอฮ์) ก็ไม่ควรพูดจาเพราะพริ้งนักเพราะจะทำให้ผู้ที่ในหัวใจของเขามีโรคเกิดความโลภแต่จงพูดด้วยถ้อยคำที่พอเหมาะพอควร

33.

และจงอยู่ในบ้านเรือนของพวกเธอและอย่าได้โออวดความงาม (ของพวกเธอ) เช่นการอวดความงาม (ของพวกสตรี) แห่งสมัยงมงายในยุคก่อน และจงดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาตและจงภักดีต่ออัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์อัลลอฮ์เพียงแต่ต้องการที่จะขจัดความโสโครกออกไปจากพวกเจ้า โอ้สมาชิกของวงศ์ตระกูล(นบี) เอ๋ย และทรง (ประสงค์) ที่จะขัดเกลาพวกเจ้าให้สะอาดบริสุทธิ์

34.

และจงอ่านสิ่งที่ได้ถูกอ่านในบ้านเรือนของพวกเธอ (เช่น)จากอายาตทั้งหลายของอัลลอฮ์และฮิกมะฮ์ แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้อย่างละเอียดทรงรอบรู้ทุกสิ่ง

35.

แท้จริง บรรดาผู้นอบน้อมชายและหญิง บรรดาผู้ศรัทธาชายและหญิงบรรดาผู้ภักดีชายและหญิง บรรดาผู้สัตย์จริงชายและหญิง บรรดาผู้อดทนชายและหญิงบรรดาผู้ถ่อมตัวชายและหญิง บรรดาผู้บริจาคทานชายและหญิงบรรดาผู้ถือศีลอดชายและหญิงบรรดาผู้รักษาอวัยวะเพศของพวกเขาที่เป็นชายและหญิงบรรดาผู้รำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมากที่เป็นชายและหญิงนั้น

36.

ไม่บังควรแก่ผู้ศรัทธาชายและผู้ศรัทธาหญิงเมื่ออัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์ได้กำหนดกิจการใดแล้วสำหรับพวกเขาไม่มีทางเลือกในเรื่องของพวกเขาและผู้ใดไม่เชื่อฟังอัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์แล้วแน่นอนเขาได้หลงผิดอย่างชัดแจ้ง

37.

และจงรำลึกถึงขณะที่เจ้าพูดกับผู้ที่อัลลอฮ์ทรงโปรดปรานแก่เขาและเจ้าได้ให้ความสงเคราะห์แก่เขา และจงดูแลรักษาภริยาของเจ้าไว้ให้อยู่กับเจ้าและจงยำเกรงอัลลอฮ์และเจ้าได้ซ่อนไว้ในจิตใจของเจ้าเรื่องที่อัลลอฮ์จะทรงเปิดเผยมันและเจ้ากลัวเกรงมนุษย์ แต่อัลลอฮ์ทรงสมควรยิ่งกว่าที่เจ้าจะกลัวเกรงพระองค์ครั้นเมื่อเซด ได้หย่ากับนาง แล้วเราได้ให้เจ้าแต่งงานกับนางเพื่อที่จะไม่เป็นที่ลำบากใจแก่บรรดาผู้ศรัทธาชายในเรื่องการ (การสมรสกับ) ภริยาของบุตรบุญธรรมของพวกเขาเมื่อพวกเขาหย่ากับพวกนางแล้วและพระบัญชาของอัลลอฮ์นั้นจะต้อง บรรลุผลเสมอ

38.

ไม่เป็นการลำบากใจอันใดแก่ท่านนบี ในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดให้แก่เขา (นี่คือ)แนวทางของอัลลอฮ์ (ที่ได้มีขึ้นแล้ว) ต่อบรรดาผู้ได้ล่วงลับในสมัยก่อนและพระบัญชาของอัลลอฮ์นั้นได้กำหนดไว้แล้ว

39.

บรรดา (นบี) ผู้ที่ได้เผยแผ่สาสน์ทั้งหลายของอัลลอฮ์ และพวกเขากลัวเกรงพระองค์และไม่กลัวเกรงผู้ใดนอกจากอัลลอฮ์ และพอเพียงแล้วที่อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงชำระสอบสวน

40.

มุฮัมมัดมิได้เป็นบิดาผู้ใดในหมู่บุรุษของพวกเจ้าแต่เป็นร่อซู้ลของอัลลอฮ์และคนสุดท้ายแห่งบรรดานบี

41.

โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย! จงรำลึกถึงอัลลอฮ์โดยการรำลึกอย่างมากมาย

42.

และแซ่ซ้องสะดุดีพระองค์ทั้งยามเช้าและยามเย็น

43.

พระองค์คือผู้ทรงประทานความเมตตาให้แก่พวกเจ้า และมลาอิกะฮ์ของพระองค์ด้วยเพื่อพระองค์จะทรงนำพวกเจ้าออกจากความมืดทึบทั้งหลายสู่ความสว่างและพระองค์ทรงเมตตาต่อบรรดาผู้ศรัทธาเสมอ

44.

การกล่าวคำทักทายของพวกเขาในวันที่พวกเขาพบพระองค์คือ ศานติ (สลาม)และพระองค์ทรงเตรียมรางวัลอันมีเกียรติไว้ให้แก่พวกเขาแล้ว

45.

โอ้ นบีเอ๋ย! แท้จริง เราได้ส่งเจ้ามาเพื่อให้เป็นพยาน และผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือน

46.

และเป็นผู้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮ์ ตามพระบัญชาของพระองค์และเป็นดวงประทีปอันแจ่มจรัส

47.

และจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาว่า แท้จริงสำหรับพวกเขาจะได้รับความโปรดปรานอันใหญ่หลวงจากอัลลอฮ์

48.

และอย่าเชื่อฟังพวกปฏิเสธศรัทธาและพวกมุนาฟิกีน และอย่าสนใจการระรานของพวกเขาและจงมอบความไว้วางใจแด่อัลลอฮ์ และพอเพียงแล้วที่อัลลอฮ์ทรงเป็นผู้รับการมอบหมาย

49.

โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย! เมื่อพวกเจ้าได้สมรสกับบรรดาหญิงผู้ศรัทธาแล้วพวกเจ้าได้หย่าพวกเธอก่อนที่พวกเจ้าจะแตะต้องตัวพวกเธอ(คือร่วมหลับนอนกับพวกเธอ) ดังนั้น สำหรับพวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ (ที่จะให้พวกเธออยู่)ในอิดดะฮ์ โดยที่พวกเจ้าจะนับเวลาการอยู่ในอิดดะฮ์ ฉะนั้นพวกเจ้าจงให้ผลประโยชน์แก่พวกเธอบ้าง แล้วปล่อยให้พวกเธอจากไปโดยดีงาม

50.

โอ้ นบีเอ๋ย! เราได้อนุมัติแก่เจ้าในบรรดาภริยาของเจ้าซึ่งเจ้าได้มอบมะฮัรแก่พวกเธอและสิ่งที่มือขวาของเจ้าครอบครองจากพวกที่อัลลอฮ์ทรงมอบหมายให้แก่เจ้าและบุตรสาวของอา ลุง ของเจ้า และบุตรสาวของอา ป้า ของเจ้า และบุตรสาวของน้า ลุงของเจ้า และบุตรสาวของน้า ป้า ของเจ้า ซึ่งพวกเธอได้อพยพร่วมไปกับเจ้าและหญิงผู้ศรัทธาเมื่อนางเสนอตัวของนางแก่ท่านนบีหากท่านนบีปรารถนาจะสมรสกับนางทั้งนี้สำหรับเจ้าโดยเฉพาะมิใช่สำหรับบรรดาผู้ศรัทธา แน่นอนเรารู้ดีถึงสิ่งที่เราได้กำหนดแก่พวกเขาในเรื่องบรรดาภริยาของพวกเขา และสิ่งที่มือขวาของพวกเขาครอบครอง เพื่อที่จะไม่เป็นที่ลำบากใจแก่เจ้าและอัลลอฮ์เป็น ผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ

51.

เจ้ามีสิทธิ์ที่จะหย่าผู้ที่เจ้าปรารถนาในหมู่พวกเธอและเจ้าจะรับผู้ที่เจ้าประสงค์มาอยู่ร่วมกับเจ้า และผู้ใดที่เจ้าต้องการ(ให้มาอยู่ร่วม) จากผู้ที่เจ้าเคยแยกกันอยู่ ก็ไม่เป็นที่ตำหนิแก่เจ้านั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่จะทำให้นัยตาของพวกเธอรื่นรมย์ และไม่ทำให้พวกเธอเศร้าโศกและพวกเธอพอใจในสิ่งที่เจ้าได้ให้แก่พวกเธอทั้งหมดและอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในจิตใจของพวกเจ้า และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงรอบรู้ผู้ทรงขันติธรรม

52.

ไม่เป็นที่อนุมัติแก่เจ้าที่จะแต่งงานกับหญิงอื่นหลังจากนี้และเจ้าอย่าได้เปลี่ยนพวกเธอเพื่อภริยาอื่น ๆถึงแม้ว่าความสวยงามของพวกเธอจะทำให้เจ้าพอใจก็ตามนอกจากสิ่งที่มือขวาของเจ้าครอบครองและอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่าง

53.

โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! พวกเจ้าอย่าได้เข้าไปในบ้านทั้งหลายของนบีเว้นแต่จะเป็นที่อนุมัติแก่พวกเจ้าเพื่อรับประทานอาหารโดยมิต้องคอยการปรุงอาหารให้สุกเสียก่อนแต่เมื่อพวกเจ้าได้รับเชิญก็จงเข้าไปครั้นเมื่อพวกเจ้ารับประทานเสร็จแล้วก็จงแยกย้ายกันออกไปและอย่าเป็นผู้ชอบวิสาสะในการสนทนา แท้จริง ในการนั้นย่อมทำความรำคาญให้แก่ท่านนบีซึ่งท่านกระดากอายพวกเจ้า แต่อัลลอฮ์ไม่ทรงกระดากอายต่อความจริงและเมื่อพวกเจ้าขอสิ่งใดจากพวกนาง ก็จงขอพวกนางจากหลังม่านเช่นนั้นแหละเป็นการบริสุทธิ์อย่างยิ่งแก่จิตใจของพวกเจ้าและจิตใจของพวกนางและไม่เป็นการบังควรแก่พวกเจ้าที่จะก่อความรำคาญให้แก่ร่อซู้ลของอัลลอฮ์และพวกเจ้าจะต้องไม่แต่งงานกับบรรดาภริยาของท่าน หลังจากท่าน (ได้สิ้นชีพไปแล้ว)เป็นอันขาด แท้จริงในการนั้น ณ ที่อัลลอฮ์เป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงนัก

54.

หากพวกเจ้าเปิดเผยสิ่งใดหรือปิดบังมัน แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง

55.

ไม่เป็นที่น่าตำหนิแก่พวกนาง เกี่ยวกับบิดาของพวกนาง และลูก ๆของพวกนางและพี่น้องผู้ชายของพวกนาง และลูกชายของพี่น้องหญิงของพวกนางและบรรดาผู้หญิงของพวกนาง และสิ่งที่มือขวาของพวกนางครอบครองและพวกนางยำเกรงต่ออัลลอฮ์ แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงเป็นพยานต่อทุกสิ่ง

56.

แท้จริงอัลลอฮ์และมลาอิกะฮ์ของพระองค์ประสาทพรแก่นบี โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย !พวกเจ้าจงประสาทพรให้เขาและกล่าวทักทายเขาโดยคารวะ

57.

แท้จริง บรรดาผู้กล่าวร้ายแก่อัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์อัลลอฮ์ทรงสาปแช่งพวกเขาทั้งในโลกนี้และปรโลกและทรงเตรียมการลงโทษอันอัปยศไว้สำหรับพวกเขา

58.

และบรรดาผู้กล่าวร้ายแก่บรรดาผู้ศรัทธาชายและบรรดาผู้ศรัทธาหญิงในสิ่งที่พวกเขามิได้กระทำ แน่นอนพวกเขาได้แบกการกล่าวร้าย และบาปอันชัดแจ้งไว้

59.

โอ้นบีเอ๋ย ! จงกล่าวแก่บรรดาภริยาของเจ้า และบุตรสาวของเจ้าและบรรดาหญิงของบรรดาผู้ศรัทธา ให้พวกนางดึงเสื้อคลุมของพวกนางลงมาปิดตัวของพวกนางนั่น เป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะเป็นที่รู้จัก เพื่อที่พวกนางจะไม่ถูกรบกวนและอัลลอฮ์ทรงเป็นผู้อภัยผู้ทรงเมตตาเสมอ

60.

แน่นอน ถ้าพวกมุนาฟิกีนและบรรดาผู้ที่ในหัวใจของพวกเขามีโรคและกลุ่มผู้ก่อกวนความสงบในนครมะดีนะฮ์ไม่ระงับ (การกระทำที่เลวทรามของพวกเขา)แน่นอน เราจะให้เจ้ามีอำนาจเหนือพวกเขาแล้วพวกเขาจะไม่กลับมาพำนักเป็นเพื่อนบ้านของเจ้าในนั้นอีกเว้นแต่เพียงชั่วเวลาอันเล็กน้อยเท่านั้น

61.

พวกเหล่านั้นถูกสาปแช่ง ไม่ว่าพวกเขาจะถูกพบ ณ แห่งหนใด ก็จะถูกจับกุมและถูกสังหาร(โดยปราศจากความเมตตา)

62.

นั่นคือแนวทางของอัลลอฮ์แก่บรรดาผู้ที่ล่วงลับไปแล้วแต่กาลก่อนและเจ้าจะไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในแนวทางของอัลลอฮ์

63.

มีผู้คนถามเจ้าเกี่ยวกับยามอวสาน จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด)แท้จริงความรู้ในเรื่องนั้นอยู่ ณ ที่อัลลอฮ์ และอะไรเล่าจะทำให้เจ้ารู้ได้บางทียามอวสานนั้นอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง

64.

แท้จริง อัลลอฮ์ทรงสาปแช่งบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาและทรงเตรียมไฟที่ลุกโชติช่วงไว้สำหรับพวกเขา

65.

พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล พวกเขาจะไม่พบผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลือ

66.

วันที่ใบหน้าของพวกเขาจะถูกพลิกกลับไปกลับมาในไฟนรก พวกเขาจะกล่าวว่าโอ้ความระทมทุกข์ของเรา ! หากเราได้เชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์และเราได้เชื่อฟังปฏิบัติตามร่อซู้ลก็จะดีหรอก !!

67.

และพวกเขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของเราแท้จริงเราได้เชื่อฟังปฏิบัติตามบรรดาหัวหน้าของเรา และบรรดาผู้นำของเราดังนั้นพวกเขาได้ทำให้พวกเราหลงทาง

68.

ข้าแต่พระเจ้าของเรา ได้โปรดลงโทษพวกเขาสองเท่าเถิดและทรงสาปแช่งพวกเขาซึ่งการสาปแช่งอันยิ่งใหญ่

69.

โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! พวกเจ้าอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้สบประมาทมูซาแล้วอัลลอฮ์ก็ทรงให้เขาพ้นจากที่พวกเขากล่าวร้าย และเขาเป็นผู้ควรแก่การคารวะ ณที่อัลลอฮ์

70.

โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! จงยำเกรงอัลลอฮ์ และจงกล่าวถ้อยคำที่เที่ยงธรรมเถิด

71.

พระองค์จะทรงปรับปรุงการงานของพวกเจ้าให้ดีขึ้นสำหรับพวกเจ้าและจะทรงอภัยโทษความผิดของพวกเจ้าให้แก่พวกเจ้าและผู้ใดเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์แล่ะร่อซู้ลของพระองค์แน่นอนเขาได้รับความสำเร็จใหญ่หลวง

72.

แท้จริงเราได้เสนอการอะมานะฮ์ แก่ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และขุนเขาทั้งหลายแต่พวกมันปฏิเสธจะแบกรับมันและกลัวต่อมัน (คือภาระอันหนักอึ้ง)และมนุษย์ได้แบกรับมัน แท้จริงเขา (มนุษย์) เป็นผู้อธรรมงมงายยิ่ง

73.

เพื่ออัลลอฮ์จะได้ทรงลงโทษแก่พวกมุนาฟิกีนชายและพวกมุนาฟิกีนหญิงและบรรดาผู้ตั้งภาคีชาย (มุชริกีน) และบรรดาผู้ตั้งภาคีหญิง (มุชริก๊าต)และเพื่ออัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษแก่บรรดาผู้ศรัทธาชาย และบรรดาผู้ศรัทธาหญิงและอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ: